รายการเนื้อหา
ท่านสามารถคลิกที่หัวข้อที่สนใจ
- หาดบางแสน
- สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล
- แหลมแท่น
- เขาสามมุข
- สวนสาธารณะเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวหาดบางแสนล่าง
- ตลาดหนองมน
- วัดตาลล้อม
- วัดราษฎร์ศรัทธา (ท้ายดอน)
- วัดแสนสุขสุทธิวราราม
หาดบางแสน
หาดบางแสนเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมานาน อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรีประมาณ 13 กิโลเมตร แยกขวาจากถนนสุขุมวิท ตรงหลักกิโลเมตรที่ 104 เข้าไปอีก 3 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมาช้านาน บริเวณชายหาดยาวประมาณ 5 กิโลเมตร มีถนนเลียบชายหาดที่สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ทั้งที่พัก บังกะโล ห้องอาบน้ำจืด ร้านอาหาร และอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ เช่น เรือลากกล้วย สกู๊ตเตอร์ ห่วงยาง ฯลฯ ปัจจุบันชายหาดบางแสนได้รับการพัฒนาจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สะอาดสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก เหมาะสำหรับการพักผ่อนและนันทนาการในบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง
สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล
สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลมหาวิทยาลัยบูรพา (The Institute of Marine Science, Burapha University Thailand) ตั้งอยู่บริเวณมหาวิทยาลับบูรพา เป็นสถาบันวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเล โดยมีสถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล ที่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชม สถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็มหรือสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ
การจัดแสดงถูกแบ่งออกเป็น 2 ชั้น โดยบริเวณภายนอกสถาบัน จะมีการแสดงโครงกระดูกวาฬแกลบ ที่ตายในเขตน่านน้ำไทย ชั้นแรก มีการแสดงสัตว์อาศัยบริเวณชายฝั่งที่มีปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง เช่น แมงดาทะเล ปลิงทะเล หอยเม่น ดาวทะเล ปูเสฉวน และดอกไม้ทะเล เป็นต้น การแสดงในส่วนของปลาในแนวปะการังซึ่งอาศัยอยู่อย่างเกื้อกูลกัน เช่น ปลาการ์ตูนกับดอกไม้ทะเล เป็นต้น การแสดงในส่วนของสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง ปลาเศรษฐกิจ ปลาที่มีพิษ และปลาที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรและบ่อฉลาม โดยเฉพาะในส่วนของปลาที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรนี้ถือได้ว่าเป็นจุดสนใจของสถาบันแห่งนี้มาตลอด เพราะมีการเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ในตู้กระจกขนาดใหญ่ที่มีความจุน้ำถึง 200 ตัน ที่ใช้ความหนาของกระจกถึงหนึ่งคืบ เช่น ปลาหมอทะเล ปลาฉลามครีบดำ ซึ่งปัจจุบันได้มีการสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิมซึ่งสามารถจุน้ำได้ถึง 1,000 ตัน แล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2552 และเปิดให้เข้าชมได้ในวันที่ 5 ธันวาคม ปีเดียวกัน ชั้นบน จะเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล มีการจัดแสดงนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เกี่ยวกับพระราชกรณีกิจทางด้านการฟื้นฟู อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และด้านวิทยาศาสตร์การประมง พื้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับอาณาจักรของสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น แพลงก์ตอน ฟองน้ำ และหมึก เป็นต้น พื้นที่ให้ความรู้ด้านนิเวศวิทยาทางทะเลและสัตว์ทะเลที่มีความผูกพันเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทย มีการจัดแสดงเครื่องมือที่ใช้ในการประมงและเรือประมง เป็นต้น และพิพิธภัณฑ์เปลือกหอย
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 17.00 น. อัตราค่าเข้าชม คนไทย เด็ก 40 บาท ผู้ใหญ่ 80 บาท ชาวต่างชาติ เด็ก 120 ผู้ใหญ่ 220 บาท การเข้าชมเป็นหมู่คณะและมีวิทยากรบรรยายต้องติดต่อล่วงหน้าก่อน 7 วัน
แหลมแท่น
แหล่มแท่นเป็นสถานที่รับชมธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ถัดจากชายหาดบางแสนไปทางทิศเหนือ ณ ที่แห่งนี้ มีประติมากรรมที่ชนะเลิศการประกวดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแหลมแท่นตั้งอยู่ นอกจากนี้ยังมีศาลาเฉลิมพระเกียรติฯ ที่งดงามทอดยาวไปในทะเล เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติและบรรยากาศที่สวยงาม
เขาสามมุข
เขาสามมุขตั้งอยู่ทิศเหนือของหาดบางแสน บริเวณหน้าผาริมทะเลเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่สามมุขซึ่งเป็นที่เคารพของคนทั่วไป สถานที่แห่งนี้เป็นตำนานแห่งความรักของหนุ่มสาว ซึ่งจบชีวิตลงตามคำสาบานที่ได้ให้ไว้ต่อกัน บริเวณนี้มีลิงป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาให้อาหารลิงและสักการะเจ้าแม่สามมุข (ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมตำนานของเขาสามุข ที่ https://thailandtourismdirectory.go.th/th/info/attraction/detail/itemid/4867) พร้อมรับประทานอาหารทะเลก่อนเดินทางกลับ
สวนสาธารณะเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวหาดบางแสนล่าง
สวนสาธารณะเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวหาดบางแสนล่าง หรือสวนสาธารณะหาดวอนนภา ห่างจากวงเวียนต้อนรับบางแสนประมาณ 2 กิโลเมตร ลักษณะของสวนสาธารณะเป็นรูปม้าน้ำ ซึ่งในอดีตบริเวณชายหาดจะมีม้าน้ำจำนวนมาก ต่อมาใกล้สูญพันธุ์ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา จึงได้ทำการเพาะพันธุ์และขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น ในปี พ.ศ. 2549 เทศบาลเมืองแสนสุข ได้สร้างสวนสาธารณะขึ้นบริเวณริมทะเลชายหาดบางแสนล่าง เพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อน นันทนาการและสร้างความหลากหลายด้านท่องเที่ยว โดยบริเวณสวนสาธารณะฯ มีสวนย่อมและศาลาให้นั่งพักผ่อน ติดริมทะเล
ตลาดหนองมน
ตลาดหนองมน ตั้งอยู่บริเวณถนนสุขุมวิทใกล้ทางแยกเข้าหาดบางแสน ประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นตลาดจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและร้านของฝากที่ขึ้นชื่อและรู้จักกันดี ได้แก่ ข้าวหลาม ห่อหมกทะเล หอยจ๊อ ขนมหวาน และอาหารทะเลแห้ง ฯลฯ
ที่มาชื่อ “หนองมน” ศึกษาเพิ่มเติม ที่ https://www.youtube.com/watch?v=k9OgX36igTs
วัดตาลล้อม
วัดตาลล้อม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2385 เดิมชื่อ วัดณรงค์ เรียกตามนามของอุบาสกผู้ถวายที่ดินสร้างวัด คือ ขุนณรงค์ จอมสุวรรณ กำนันตำบลบางทราย โดยมีพื้นที่ราว 31 ไร่ 3 งานเศษ แต่เมื่อมีผู้คนเข้าวัดมากขึ้นทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวก ต้องใช้สะพานข้าม จึงได้มีการย้ายวัดมาอยู่ที่ใหม่แล้วเปลี่ยนชื่อจากเดิมเป็น วัดตาลล้อม เพราะมีต้นตาลล้อมรอบอยู่รอบวัด การขึ้นทะเบียน ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนที่ พิเศษ 17ง. ลงวันที่ 17 มีนาคม 2542 พื้นที่โบราณสถานโดยประมาณ 3 ไร่ 2 งาน 20.5 ตาราวา
พระอุโบสถหลังเดิมอายุเก่าแก่มากกว่า 170 ปี ได้รับการจดทะเบียนเป็นโบราณสถาน มีภาพจิตกรรมฝาผนังเขียนด้วยสีน้ำ เกี่ยวกับเรื่องพุทธประวัติแต่ปัจจุบันได้ผุพังไปตามกาลเวลา
วัดราษฎร์ศรัทธา (ท้ายดอน)
วัดราษฎร์ศรัทธา เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า ๑๕๕ ปี ได้ทำการค้นพบหลักฐานต่าง ๆ เป็นจำนวนมากอันได้แก่ เศียรองค์พระพุทธรูปปูนปั้น ซึ่งเป็นศิลปะสมัยโบราณ ในสมัยก่อนสภาพพื้นที่เป็นป่า การเดินทางไปวัดต้องเดินทางด้วยเท้าไปตามป่า ทำให้ประชาชนเดินทางเข้าไปในวัดไม่สะดวก ต่อมามีผู้มีจิตศรัทธาถวายที่ดินให้เป็นธรณีสงฆ์และชาวบ้านจึงช่วยกันสร้างวัดขึ้นมาใหม่ให้ใกล้กับหมู่บ้าน เพื่อจะได้เดินทางไปมาอย่างสะดวก โดยตั้งชื่อวัดนี้ว่า วัดท้ายดอน ต่อมาในสมัยหลวงพ่อแย้ม ได้มีนายอ่วมกับราษฎร ได้ทำรายงานกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานวิสุงคามสีมา แด่พระจ้าแผ่นดินสยาม และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานวิสุงคามสีมาให้กับวัดท้ายดอน เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2446 และได้ชื่อใหม่ว่า วัดราษฎร์ศรัทธา
ปีพ.ศ. 2493 พระชลธารธรรมวาที อดีตเจ้าเมืองชลบุรีสมัยนั้น ได้จัดตั้งให้พระสมุห์ยิ่ง สุมโน (พระครูนิวิฐสารคุณ อดีตเจ้าอาวาส) มารักษาการณ์และเป็นเจ้าอาวาส ทำให้วัดราษฎร์ศรัทธาเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีการจัดสร้างโรงเรียน ฌาปนสถาน ศาลาบำเพ็ญกุศลศพ ซุ้มประตูทางเข้าวัด หอระฆัง และกุฏิ ขยายพื้นที่ธรณีสงฆ์ และอุโบสถใหม่ขนาดใหญ่ 2 ชั้น
วัดราษฎร์ศรัทธา ได้รับคัดเลือกเป็นอุทยานการศึกษาในวัดเมื่อ ปีพ.ศ. 2545 ได้รับคัดเลือกเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างเมื่อ ปีพ.ศ. 2547
วัดแสนสุขสุทธิวราราม
วัดแสนสุขสุทธิวราราม อีกชื่อที่รู้จักกันคือ วัดแสนสุข วัดนี้มีเก่าแก่กว่า 40 ปี (2563) แต่เดิมเป็นวัดมีพระภิกษุจำพรรษา ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดแสนสุข
วัดแสนสุขเป็นแหล่งการเรียนรู้รวบรวมความเชื่อตามแบบพุทธศาสนา ประติมากรรมปูนปั้น “สวนพุทธ เมืองสวรรค์ แดนนรก” เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติให้ละเว้นความชั่ว เหมาะสำหรับสอนบุตรหลาน ปลูกฝังความเกรงกลัวต่อการทำบาป พื้นที่ภายในแบ่งเป็น สวนพุทธ ให้ศึกษาพุทธประวัติ โดยปั้นเป็นเรื่องราวต่าง ๆ แดนนรก รูปเปรตอสูรกายขนาดสูงใหญ่ รูปปั้นแสดงบทลงโทษต่อผู้กระทำชั่ว เมื่อคนทำชั่วตกนรก มีข้อความเตือนสติให้ระลึกถึงการทำความดี และเมืองสวรรค์ บริเวณแสดงภาพเทพเจ้าตามลัทธิศาสนาต่าง ๆ เช่น กำเนิดพระเยซู เจ้าแม่กวนอิม เทพแห่งศาสนาพราหมณ์หรือ 18 อรหันต์ รูปปั้นองค์เทพต่าง ๆ มากมาย ศาลากลางน้ำให้อาหารทำบุญเลี้ยงอาหารปลา นก เต่า ซึ่งจะมีนกและเต่ามาคอยกินอาหารพร้อมกับฝูงปลาจำนวนมาก เป็นการสอนให้เรู้จักการแบ่งปัน และการทำบุญทำทาน